fbpx

อาหารปลาแบบลอยและแบบจม ต่างกันอย่างไร? แบบไหนดีกว่ากัน

อาหาร เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายให้แข็งแรง ถ้าได้รับสารอาหารที่ถูกต้องและมีประโยชน์ก็จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แบบ ปลาคาร์ปก็เหมือนกันถ้าได้รับการดูแลให้อาหารเป็นอย่างดี ก็จะทำให้ขนาดตัวโตขึ้นและแสดงสีที่เด่นชัดซึ่งอาหารแต่ละสูตรก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเร่งสี เร่งโต แถมยังมีแบบจมน้ำและแบบลอยน้ำ วันนี้เราจะมาพูดถึงอาหารทั้งสองประเภทนี้ ทั้งสองอย่างนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไรและมีข้อดี กับ ข้อเสียแบบไหน ไปดูกันเลยค่ะ

เริ่มกันที่อาหารแบบลอยน้ำ อาหารปลาคาร์ปแบบลอยน้ำเป็นอาหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ลอยอยู่บนผิวน้ำ โดยมีส่วนประกอบทางโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของปลาคาร์ป และมีการผลิตในลักษณะเฉพาะเพื่อให้ลอยน้ำได้นาน ซึ่งช่วยให้ปลาคาร์ปสามารถกินอาหารได้บนผิวน้ำ ทำให้ปลาคาร์ปได้ออกกำลังกายว่ายขึ้น-ลงเสริมสร้างความแข็งแรงขอกล้ามเนื้อ ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถสังเกตพฤติกรรมการกินอาหารและสุขภาพของปลาคาร์ปได้ง่าย อย่างไรก็ตาม การใช้อาหารลอยน้ำควรมีการจัดให้ปลาคาร์ปในปริมาณและขนาดที่เหมาะสมด้วย

อาหารแบบลอยน้ำมีการผลิตโดยผ่านกระบวนการที่ทำให้อาหารลอยอยู่บนผิวน้ำได้นาน ซึ่งมักจะใช้วิธีการอัดอากาศ (extrusion) ระหว่างการผลิต ทำให้เม็ดอาหารมีลักษณะเบาและมีอากาศอยู่ภายในโครงสร้างของอาหาร ส่งผลให้อาหารสามารถลอยน้ำได้เป็นเวลานาน บางชนิดสามารถลอยน้ำได้ถึง 12 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว และยังสามารถลดสภาวะน้ำเสียภายในบ่อได้ดีกว่าอาหารแบบจมน้ำ ลดปัญหาการสะสมของเศษอาหาร ซึ่งจะช่วยให้บ่อสะอาดและลดการเกิดน้ำเสีย อาหารปลาแบบลอยน้ำ เม็ดอาหารมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของปลาคาร์ปแต่ละช่วงวัย เม็ดอาหารควรมีความแข็งและไม่แตกหักง่ายเมื่อสัมผัสกับน้ำ และมีสารอาหารที่สำคัญต่อปลาคาร์ป มักประกอบด้วยโปรตีนสูงเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ไขมันและคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้พลังงาน รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสีสันของปลา สารอาหารเสริม เช่น แคโรทีนอยด์ จะช่วยให้สีของปลาคมชัดและสดใสขึ้น อาหารแบบลอยน้ำ ได้รับการออกแบบให้ย่อยง่าย และปลาสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดี เพื่อลดปริมาณของเสียที่ปลาขับถ่ายออกมา ซึ่งจะช่วยลดการเน่าเสียของน้ำและลดการสะสมของสารอินทรีย์ในบ่อ

ไม่ใช่จะมีข้อดีอย่างเดียว อาหารปลาคาร์ปแบบลอยก็มีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ตรงนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของปลาคาร์ปและสถานที่ที่ใช้เลี้ยงปลาหรือจะเป็นสภาพอากาศที่ไม่สมดุล ในสภาพอากาศที่ร้อน ก็จะทำให้อาหารที่ลอยน้ำอยู่นั้นละลายเร็ว จึงทำให้น้ำในบ่อขุ่นและเน่าเสีย และการให้อาหารปลาแบบลอยน้ำอาจทำให้เกิดการแย่งอาหารกันบนผิวน้ำ ซึ่งปลาที่เล็กกว่า หรือ ว่ายน้ำช้ากว่าอาจจะไม่ได้รับอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ดังนั้นควรให้อาหารที่สม่ำเสมอและปริมาณที่เหมาะสมกับปลาในบ่อด้วย

มาดูอาหารปลาคาร์ปแบบจมน้ำกันบ้าง คุณสมบัติและหน้าที่ตามชื่อเลยค่ะ มีการผลิตและออกแบบมาให้มีความหนาแน่นแข็งแรงพอที่จะคงรูปร่างในน้ำไม่ละลายหรือแตกง่ายเมื่อลงสู่ผิวน้ำ อาหารแบบจมน้ำจะไม่ผ่านกระบวนการอัดอากาศ (extrusion) เมื่อลงไปสู่ผิวน้ำแล้วเม็ดจะต้องจมทันที เหมาะสำหรับปลาคาร์ปที่ชอบว่ายหาอาหารเองธรรมตามชาติที่ก้นบ่อ ช่วยกระตุ้นให้ปลามีการใช้ประสาทสัมผัสค้นหาอาหารที่พื้นน้ำ ซึ่งเป็นการจำลองพฤติกรรมหาอาหารแบบชาติของปลาคาร์ป อาหารแบบจมน้ำมักจะประกอบด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนที่ส่งเสริมการเจริญเติบโต ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต รวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่จะช่วยให้ปลาคาร์ปมีสุขภาพที่ดีและสีสันสดใส นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นความอยากของปลาเพื่อให้ปลาได้กินอาหารได้เต็มที่มากขึ้น ซึ่งข้อดีของอาหารแบบจมน้ำก็มีหลายอย่างมาก อย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือลดการแย่งอาหารบนผิวน้ำ เมื่ออาหารจมสู่ก้นบ่อ ปลาคาร์ปทุกตัวก็สามารถเข้าถึงอาหารได้ง่ายปลาที่ไม่ขึ้นมากินบนผิวน้ำ หรือ ปลาที่ตัวเล็กกว่าก็สามารถกินอาหารในน้ำได้ และที่สำคัญอาหารแบบจมน้ำเหมาะกับปลาที่บาดเจ็บ ไม่แข็งแรง ปลาที่ไม่มีกำลังที่จะสามารถว่ายขึ้นไปกินอาหารบนผิวน้ำได้ การให้อาหารแบบจมก็จะช่วยให้ปลากลุ่มที่บาดเจ็บสามารถเข้าถึงอาหารได้ แถมยังสามารถลดการเปลี่ยนแปลงอุณภูมิที่จะต้องเจอของปลาคาร์ปในบ่อได้อีกด้วย เนื่องจากปลาไม่ต้องว่ายน้ำขึ้นมาผิวน้ำปลาจะสามารถหลีกเลี่ยงกับแสงแดดและอุณภูมิที่สูง ความเปลี่ยนแปรงอย่างรวดเร็วของสภาพอากาศ จะเป็นการลดความเครียดของปลาได้ดี แต่อาหารปลาแบบจมน้ำก็มีข้อที่ควรรระวังเช่นกัน เนื่องจากอาหารเป็นแบบจมน้ำถ้าไม่มีการควบคุมหรือชั่งตวงอาหาร เมื่อให้อาหารลงไปแล้วอาหารจะจมน้ำทันที ทำให้ผู้เลี้ยงหลายๆท่านอาจจะไม่ทันสังเกตุว่าปลากินอาหารหมดหรือไม่ จึงต้องควบคุมและระมัดระวังไม่ให้อาหารในปริมาณที่มากเกินไป หากให้อาหารในปริมาณที่มากไป อาหารที่เหลือก็จะจมน้ำและสะสมที่ก้นบ่อ ซึ่งจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ง่าย กลายเป็นปัญหาสะสมอินทรีย์วัตถุในบ่อได้ และขนาดของเม็ดอาหารก็มีความสำคัญเช่นกันกับประเภทของอาหาร เราจึงสังเกตได้ว่าอาหารก็มีหลายขนาด ทั้งเล็ก กลาง และใหญ่ ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับขนาดตัวและช่วงอายุของปลา เพื่อให้ปลาคาร์ปสามารถกินอาหารได้และย่อยได้ดี ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสม ซึ่งขนาดของเม็ดอาหารที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสำลัก อาการติดคอ ถ้าอาหารเม็ดเล็กจนเกินไปอาจะทำให้ลมเข้าเข้าไปในท้องมากขึ้นจนทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ และถ้าเป็นอาหารที่เม็ดใหญ่จนเกินไปจะทำให้ปลาอ้าปากกว้างขึ้นมากกว่าปกติ ส่งผลทำให้เหงือกปลาบาน อาจจะทำให้คุณภาพของปลาเสียไปด้วย ในส่วนนี้เรามีวิธีเลือกขนาดอาหารของปลาคาร์ปมาเป็นแนวทางให้กับผู้เลี้ยงทุกๆคน ได้ลองไปเลือกใช้ ให้ปลาคาร์ปทุกตัวได้รับสารหารครบถ้วนและมีสุขภาพร่างกายที่ดี เจริญเติบโตด้วยความแข็งแรง ทั้งสามขนาดแบ่งได้ตามนี้

อย่างไรก็ตามไม่ว่าผู้เลี้ยงจะเลือกใช้อาหารแบบไหน ขอให้คำนึงถึงความต้องการและความเหมาะสมกับขนาด ช่วงวัยอายุ และสายพันธุ์ของปลาคาร์ป รวมถึงการให้อาหารในปริมาณที่พอดีกับจำนวนของปลาและขนาดบ่อ เพื่อป้องกันเศษอาหารตกค้างโดยควรต้องคำนึงถึงการจัดการคุณภาพน้ำและการสังเกตความสะอาดของบ่ออยู่เสมอ ส่วนผู้เลี้ยงท่านไหนที่อยากสอบถามการให้อาหารหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถแอดไลน์ @koikoito เพื่อมาพูดคุยกันได้ค่ะ