fbpx

11 อาหารปลาคาร์ป สูตรเร่งสี ยี่ห้อไหนดี 2024 ผิวปลาสดใส สีสวยเด่นชัด

สำหรับปลาคาร์ป ผิวจะบ่งบอกได้ถึงสุขภาพของปลาได้เป็นอย่างดี หากได้รับสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ ปลาตัวนั้นก็จะแสดงศักยภาพในตัวออกมาได้เต็มที่ ทั้งในเรื่องของสี รูปร่าง ขนาดตัว และสุขภาพของปลาคาร์ป ซึ่งศักยภาพเหล่านั้นก็จะประกอบไปด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออาหารของปลาคาร์ปด้วย โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำอาหารปลาคาร์ป สูตรเร่งสี ที่ให้ทำให้ปลาคาร์ปตัวโปรด สีสวยสดและสุขภาพแข็งแรงด้วย

อาหารปลาคาร์ป สูตรเร่งสี ยี่ห้อไหนดี

Jumbo Koi อาหารปลาคาร์ปเร่งสี สูตรธัญพืช เพิ่มโปรตีน 38% สีสดขึ้น แดงฉํ่า ปรับผิวขาว ผิวไม่เหลือง ตั้งแต่ถุงแรกที่ให้กิน หน้านํ้าไม่มัน ขี้ปลาไม่ฟุ้งกระจาย อาหารมีกลิ่นหอมย่อยง่าย

คุณสมบัติเด่นของ Jumbo Koi

  • ช่วยให้เกร็ดเงางาม น้ำไม่ขุ่น
  • มีส่วนผสม Astrazanthin เร่งสีไวใน 2 สัปดาห์
  • มีส่วนผสม Polyphenol สารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ
  • มีส่วนผสม Synbiotics ช่วยในการดูดซึมได้ดี
  • มีส่วนผสม Flavonoid ช่วยบำรุงตับปลาจากการเร่งสี

ราคาโดยประมาณ: 2,300 บาท (ขนาด 10 Kg.)


Aqua Master Colour Enhancer สูตรเร่งสีพิเศษ ดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อปลา ผสมสาหร่ายสไปรูลีน่า และ แอสตาแซนิทนเข้มข้น ช่วยทำให้เกร็ดของปลาคาร์ปเงางาม เพิ่มสีสันของปลาคาร์ปให้มีสีที่แข็มคมชัดมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่ปลากินแล้ว สีสวย โตเร็ว เพียงอย่างเดียว แต่ยังดีต่อสุขภาพของปลาคาร์ปอีกด้วย

คุณสมบัติเด่นของ Aqua Master

  • เพิ่มส่วนผสมของ โปรไบโอติก (Probiotics) เพื่อกำจัดเแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในลำไส้ของปลาและช่วยทำให้ลดโอกาสการเจ็บป่วย
  • เพิ่มส่วนผสมของ กรดอะมิโนแอซิด (amino acids) ที่จำเป็นต่อระบบย่อยอาหารเพื่อให้ปลาสามารถดูดซึมสารอาหาร
  • เพิ่มโปรตีน 40% เพิ่มสีสัน และการเจริญเติบโตของปลาคาร์ป

ราคาโดยประมาณ: 1,270 บาท (ขนาด 5 Kg.)


อาหารปลาคาร์ป WinLy Koi ของวิลลี่ แมคอินทอช ผลิตจากโรงงาน FD Food ประเทศญี่ปุ่น เลือกเฉพาะส่วนผสมคุณภาพสูง มีโปรตีน minimum 38% ในสูตรเร่งสี เป็นอาหารปลาคาร์ปสูตรยืนพื้นทานได้ทุกวัน บำรุงผิวและเกล็ดของปลาให้สวยงาม เสริมสร้างความแข็งแรง ปลาย่อยและดูดซึมไปใช้ได้ดี ทำให้บอดี้แข็งแรง สวยงามและสมส่วน

คุณสมบัติเด่นของ WinLy Plus

  • บำรุงผิวและเกล็ดของปลาให้สวยงาม
  • ปลาย่อยและดูดซึมไปใช้ได้ดี ทำให้แข็งแรงบอดี้สมส่วน
  • เพิ่มขนาดบอดี้อย่างยั่งยืน โดยปลาไม่เครียด
  • อาหารเน้นสารอาหารสมดุลแบบโปรตีนสูง 38%

ราคาโดยประมาณ: 1,070 บาท (ขนาด 4 Kg.)


อาหารปลาคาร์ปโค่ยคิง อาหารปลาคาร์ปเกรดพรีเมี่ยม นำเข้าจากประเทศจีน ด้วยสาหร่ายสไปรูลิน่าเกรดพรีเมี่ยมสายพันธ์ที่ดีที่สุดในโลก มีค่าสาหร่ายสูงถึง 12% ช่วยให้ผิวปลาสดใส สวยเด่น เห็นชัด อย่างเป็นธรรมชาติ มีโปรตีนสูงถึง 40% ช่วยเร่งการเติบโต และสร้างกล้ามเนื้อ อุดมด้วยสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นเช่น วิตามินซีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมภูมิคุ้มกันโรค

คุณสมบัติเด่นของ KoiKing

  • ช่วยให้ผิวปลาสดใส สวยเด่น เห็นชัด ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
  • น้ำไม่ขุ่น ลดปัญหาน้ำเน่าเสีย
  • ช่วยทำให้ปลามีสุขภาพดี แข็งแรง สีสวยงาม
  • เร่งโต สุขภาพดี ด้วยโภชนาการครบถ้วน

ราคาโดยประมาณ: 1,950 บาท (ขนาด 5 Kg.)


อาหารปลาคาร์ป SKF อาหารปลาเกรดพรีเมียม “ศึกษา ค้นคว้า ตั้งใจ” กลั่นกรองออกมาเป็น Supreme Koi Food อาหารปลาคาร์ปที่จะสร้างรากฐานที่ดีให้กับปลา ด้วยสูตรใหม่ที่เรียกว่า Foundation Formula High Growth + Wheat Germ + Color Enhancing รวมอยู่ในถุงเดียว จากฟาร์มปลาคาร์ปเกรดประกวดระดับ Top ของเมืองไทย ใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดเพื่ออาหารปลาที่ดีที่สุด “The best ingredients for the best koi food” ภายใต้ Zero Waste อาหารปลาได้กิน ถุงคนได้ใช้

คุณสมบัติเด่นของ Supreme Koi

  • เร่งสี เร่งการเจริญเติบโต ดูแลสุขภาพปลาในถุงเดียว
  • คุณภาพน้ำไม่เสีย
  • คุณภาพเม็ดอาหารไม่ยุ่ยง่าย
  • มาตรฐานโรงงานผลิตระดับโลก

ราคาโดยประมาณ: 169 บาท (ขนาด 0.5 Kg.)


อาหารปลาคาร์ปไซเตกิ สูตรเร่งสีอย่างรวดเร็ว อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีความเหมาะสมต่อความต้องการของปลาทั้งสาหร่ายสไปรูไลน่า ประกอบด้วยสารสีจากธรรมชาติในปริมาณสูง เช่น คลอโรฟิลด์ แคโรทีนอยด์ และไฟโคไซยานิน ที่มีความสำคัญต่อการเกิดสีของปลา สารเร่งสีแอสทาแซนธินเป็นสารเร่งสีชนิดหนึ่งในกลุ่มแคโรทีนนอยด์ ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยให้เซลล์สีในตัวปลาสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสีแดง ช่วยให้ปลาคาร์พมีสีสันที่เข้มขึ้น

คุณสมบัติเด่นของ Saiteki

  • ช่วยการดูดซึมสารอาหาร เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมกับบำรุงผิวหนัง และเพิ่มสีสันของปลาอย่างรวดเร็ว
  • ใช้แล้วน้ำไม่ขุ่นรับรองความสะอาดของน้ำ เนื่องจากอาหารมีคุณสมบัติลอยและไม่แตกตัวง่าย จึงไม่ทำให้น้ำขุ่น
  • อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีความเหมาะสมต่อความต้องการของปลา
  • ช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินที่ทำให้ปลาไม่อ้วนผิดรูปทรง

ราคาโดยประมาณ: 1,900 บาท (ขนาด 7 Kg.)


อาหารปลาคาร์ป สูตรเร่งโตและเร่งสี ในถุงเดียวกัน ผสมน้ำผึ้งจากธรรมชาติ เป็นสูตรที่ให้ปลากินได้ต่อเนื่องทุกวัน ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับปลา ช่วยเพิ่มการเติบโต มีสีสันสวยงาม มีโปรไบโอติก ช่วยดูแลระบบย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดี ทำให้ปลาคาร์ปมีสุขภาพที่ดี

คุณสมบัติเด่นของ Boost

  • เร่งโต เร่งสี ผสมน้ำผึ้งจากธรรมชาติ
  • เป็นสูตรที่ให้ปลากินได้ต่อเนื่องทุกวัน
  • มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง ช่วย ลดความเครียด ช่วย สมานแผลในตัวปลาได้เร็วขึ้น ทำให้ปลามีสุขภาพดี
  • มีโปรไบโอติก ช่วยดูแลระบบย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดี

ราคาโดยประมาณ: 220 บาท (ขนาด 1.5 Kg.)


อาหารปลาคาร์ปซากุระโค่ย สูตรเร่งสีแบบรวดเร็ว ด้วย 3 คุณค่าสารสกัดจาก Astaxantin, Chili Powder และคริลล์จากนอร์เวย์ เห็นผลใน 15 วันหลังใช้ต่อเนื่อง เร่งสีแดงและสีส้มที่ฝังในตัวปลา ให้มาไวขึ้นทันตาเห็น มีโปรตีนสูง 40% เร่งโตได้เป็นอย่างดี มีความสวยงามไปพร้อมกับสีสันของปลา อัดเม็ดอาหารมาอย่างดี เม็ดสวยเท่ากัน ลดปัญหาน้ำขุ่นจากการแตกตัวของอาหาร-ปลาย่อยง่าย ดูดซึมสารอาหารได้ดี ขี้ปลาจึงไม่ฟุ้งกระจาย

คุณสมบัติเด่นของ Sakura Koi

  • โปรตีนสูง 40% เร่งโตได้เป็นอย่างดี มีความสวยงามไปพร้อมกับสีสันของปลา
  • มีวิตามินต่างๆ รวมเอาไว้มากมาย ช่วยให้ผิวปลาสุขภาพดี ไม่เหลือง
  • ลดปัญหาน้ำขุ่นจากการแตกตัวของอาหาร-ปลาย่อยง่าย ดูดซึมสารอาหารได้ดี

ราคาโดยประมาณ: 1,215 บาท (ขนาด 4 Kg.)


เจพีดี อาหารปลาคาร์ปพรีเมี่ยม สูตรเร่งสี มีแอสตาแซนธินทำให้สีแดงแดงและวิตามินซีทำให้ผิวขาวขึ้น ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้หุ่นสวยเป็นประกาย อุดมด้วยวิตามินซีหลักที่ช่วยรักษาสีขาวบนตัวปลาคราฟ นอกจากนี้การย่อยได้ดียังดีต่อลำไส้และความน่ารับประทานสูงมาก คงรูปร่างไว้ในน้ำเป็นเวลานาน ไม่ส่งผลเสียต่อคุณภาพน้ำ

คุณสมบัติเด่นของ JPD Yamato

  • แอสตาแซนธินทำให้สีแดงแดงและวิตามินซีทำให้ผิวขาวขึ้น ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้หุ่นสวยเป็นประกาย
  • อุดมด้วยวิตามินซีหลักที่ช่วยรักษาสีขาวบนตัวปลาคราฟ
  • มีส่วนผสมคุณภาพสูงซึ่งทำให้การย่อย ดีต่อลำไส้และความน่ารับประทานสูงมาก
  • เม็ดจะคงรูปร่างไว้ในน้ำเป็นเวลานาน อาหารนี้ไม่ส่งผลเสียต่อคุณภาพน้ำ

ราคาโดยประมาณ: 179 – 339 บาท (ขนาด 0.5 – 1 Kg.)


อาหารปลาคาร์ปสูตรเร่งสี มีโปรไบโอติก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เหมาะกับช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง มี Hikari Germ ช่วยระบบย่อย ทำให้ดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้นได้รับสารอาหารครบถ้วน

คุณสมบัติเด่นของ Saki Hikari

  • อุดมด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตและสารอาหารอื่น ๆ
  • ปลาจึงเจริญเติบโตได้ดี และมีสีสันที่สดสวย คมชัด
  • มีส่วนผสมของสาหร่ายสไปรูลิน่าที่ผ่านการเพาะเลี้ยงและการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน
  • ระบบกรองแบบชีวภาพมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ส่งผลให้น้ำที่ผ่านการบำบัดมีคุณภาพดีขึ้น

ราคาโดยประมาณ: 299 บาท (ขนาด 0.5 Kg.)


อาหารปลาคาร์ป UP Redparty เป็นอาหารที่เหมาะกับคนเลี้ยงปลา เพราะเป็นสูตรที่ทำให้ปลาสีสด ด้วยสารอาหารหลัก 3 ชนิด สาหร่ายสไปรูลีน่า (Spirulina), งาดำ (Black Sesame Seeds), ข้าวไรซ์เบอรี่ (Riceberry Rice), จมูกข้าวสาลี (Wheat Germ) มาผสมผสานในปริมาณที่ลงตัว เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวปลาให้มากที่สุด และยังเสริมวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่มีวิตามินสูง เพื่อให้ปลาได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

คุณสมบัติเด่นของ UP Redparty

  • การนำเอาวัตถุดิบที่ให้คุณประโยชน์กับสีของตัวปลามากที่สุด
  • เสริมด้วยคุณประโยชน์จากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่มีคุณค่าทางวิตามินสูง
  • ประกอบไปด้วย สารแอสต้าแซนทิน (Astaxantin), สาหร่ายสไปรูลีน่า (Spirulina), งาดำ (Black Sesame Seeds), ข้าวไรซ์เบอรี่ (Riceberry Rice), จมูกข้าวสาลี (Wheat Germ)

ราคาโดยประมาณ: 535 บาท (ขนาด 2 Kg.)


ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่เลี้ยงปลาคาร์ปเพื่อการประกวด การให้อาหารเร่งสีควรงดให้ก่อน 1 เดือน ก่อนที่จะส่งปลาเข้าประกวด และอย่าให้อาหารสูตรอื่นๆ จนมากเกินไปเพราะจะทำให้ปลาโตไวเกินจนสีแตกได้ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่มีผลกับสีของปลาคาร์ป เช่น สิ่งแวดล้อมของบ่อเลี้ยง แสงแดด สภาพน้ำ เป็นต้น

30 สายพันธุ์ปลาคาร์ป มีกี่ประเภท สายพันธุ์ไหนน่าเลี้ยง [อัปเดต 2024]

สงสัยกันไหมครับว่าปลาคาร์ปมีกี่สายพันธุ์ ? แต่ละสายพันธุ์มีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง หากลองสังเกตแต่ละตัวมีสีสัน ลวดลาย และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป หากนับสายพันธุ์ทั้งหมดในปัจจุบัน มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ มาเริ่มกันเลยดีกว่า

  • เกรดเลี้ยงสวยงาม ทั้งในไทยและปลาที่นำเข้าจากญี่ปุ่น มีทั้งเกรดสวย สวยมาก และเกรดทั่วไป โดยส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับราคา มีตั้งแต่หลักร้อยต้น ๆ ส่วนใหญ่เป็นปลาที่เพาะพันธุ์ในไทย จนไปถึงหลักหมื่น ซึ่งดูความคุ้มราคาและให้สีสันเป็นหลักครับ
  • เกรดประกวด นิยมเลี้ยงปลาคาร์ปญี่ปุ่น ที่มีความสวยงามในเรื่องสี ลาย และโครงสร้างของตัวปลา หรือเรียกโดยรวมว่ามีคุณภาพที่ดี ราคามีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหลายแสนบาท

เป็นที่ทราบกันดีในงานประกวดปลาคาร์ป ปลาคาร์ปจะมีการแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ

  • Gosanke จะประกอบไปด้วย 3 สายพันธุ์หลักอย่าง Kohaku (โคฮาคุ), Showa (โชว่า) และ Sanke (ซังเก้)
  • Non Gosanke ปลาคาร์ปทุกสายพันธุ์ที่นอกเหนือจาก 3 สายพันธุ์ใน Gosanke

ปลาคาร์ปยังถูกแยกตามผิวและเกร็ดอีกด้วย โดยแบ่งเป็น

Doitsu เป็นประเภทปลาคาร์ป ที่ไม่มีเกล็ด หรือบางตัวมีเกล็ดขนาดใหญ่เรียงเป็นแถวแต่ไม่โผล่พ้นหนัง ขึ้นด้านข้างลำตัวและด้านบนหลัง หลายๆ คนเรียกว่า ‘ปลาหนัง’ ที่มีต้นกำเนิดมาจากเยอรมัน และถูกนำเข้ามายังประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายของศตวรรษที่ 18 ซึ่งปลาคาร์ปถูกนำมาเพื่อใช้เป็นหนึ่งในวัถุดิบประกอบอาหารในตอนนั้น ของเรือขนส่งสินค้าในการเดินทางจากเยอรมันมายังญี่ปุ่น และเมื่อถึงจุดหมายปลาที่เหลือถูกปล่อยลงบ่อ ก่อนจะมีการผสมพันธุ์และขยายพันธุ์มาเป็นกลุ่มปลาคาร์ปไม่มีเกล็ด อย่าง Doitsu Kohaku, Doitsu Showa, Doitsu Sanke และ Doitsu Shiro Utsuri ที่สวยงามอย่างปัจจุบันนี้

Ginrin กลุ่มปลาคาร์ปที่มีเกล็ดเงา แวววาว เป็นอีกสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ด้วยเอกลักษณ์ที่มีเกล็ดสะท้อนสีทอง-เงินแวววาวระยิบระยับ โดยเฉพาะเวลาที่โดนแดด จะสวยโดดเด่นมาก และปลาคาร์ปพันธุ์อื่น ๆ ที่มีลักษณะเกล็ดสะท้อน ก็จะถูกเรียกชื่อขึ้นต้นว่า Ginrin เช่น Ginrin Kohaku, Ginrin Benigoi, Ginrin Goshiki เป็นต้น และสามารถแยกกลุ่มย่อยของ Ginrin เป็น 4 กลุ่ม ได้แก้ Diamond Ginrin, Pearl Ginrin, Beta Ginrin, Kado Ginrin

สายพันธุ์ปลาคาร์ป

สายพันธุ์โคฮากุ เป็นสายพันธุ์ที่มี 2 สี คือ สีแดงบนพื้นผิวสีขาว จะมีแค่ 2 สีเท่านั้น โดยจะแบ่งออกตามจำนวนพื้นที่สีแดงได้อีก เช่น 2 ตอน, 3 ตอน หรือมากกว่านั้น ปลาสายพันธุ์นี้จัดเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก


สายพันธุ์โชว่า หรือ โชวะ มี 3 สี ดำ แดง ขาว และจะมีสีดำบริเวณโคนครีบว่ายทั้ง 2 ข้าง โดยส่วนมากหากสีดำคาดผ่านหัวเป็นแนวเฉียง และมีสีแดงบริเวณหัว จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก


สายพันธุ์ซันเก้ หรือ ซังเก้ เป็นปลาที่มี 3 สี เช่นเดียวกับ โชว่า แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ บริเวณโคนครีบไม่มีสีดำ หรือหากมีจะไม่เป็นดำแผงใหญ่ จะมีก็แค่เป็นดำเส้น ๆ วิ่งจามแนวครับ สำหรับสายพันธุ์ซันเก้นั้นจะมีดำบนตัวที่น้อยกว่าโชว่า จะเป็นดำที่วางเป็นหย่อม ๆ ไม่ได้พาดไปตามตัวแบบโชว่า จุดเด่นสำหรับสายพันธุ์นี้คือบริเวณไหล่ของปลา หากมีดำที่เข้ม จะทำให้เป็นที่นิยมมาก


สายพันธุ์ชูซุย เป็นหนึ่งในประเภทของปลาคาร์ปที่จัดอยู่ในกลุ่ม No Gosanke ปลาชูซุยมีลักษณะเด่นที่เกล็ดแถวเดี่ยวชัดเจนตลอดแนวหลัง ตั้งแต่หลังศีรษะไปจนถึงหาง สายพันธุ์นี้มีสีพื้นฐานเป็นสีน้ำเงินอมฟ้า และมักมีแถบสีแดงหรือสีส้มบริเวณแก้ม และท้อง

สายพันธุ์ชูซุยถือกำเนิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างปลาคาร์ปที่ไม่มีเกล็ดแบบ Doitsu และ Asagi ในยุคโชวะช่วงปี 1920 เป็นการสร้างสรรค์ที่ประสบความสำเร็จมาก เนื่องจากได้ลูกผสมที่งดงามและเป็นที่นิยมอย่างสูงในวงการปลาคาร์ป

การดูแลปลาคาร์ปชูซุยนั้นเหมือนกับการดูแลปลาคาร์ปทั่วไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปลามีแถบสีที่ค่อนข้างชัดเจน สีที่ปรากฏจะขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำและอาหารที่เราเลี้ยงดูเป็นอย่างมาก ปลาที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี สีและลักษณะจะยิ่งสวยงามมากขึ้น สำหรับท่านที่สนใจสายพันธุ์นี้สามารถหาซื้อได้ตามฟาร์มปลาคาร์ปที่มีชื่อเสียง หรืองานประกวดปลาคาร์ปก็สามารถพบเห็นได้ครับ


สายพันธุ์อาซากิ เป็นหนึ่งในปลาคาร์ปที่มีความงดงามมาก โดยมีพื้นผิวสีฟ้าเป็นหลัก และมีลายเกล็ดที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ให้การสะท้อนแสงเป็นลายละเอียดงดงามเป็นเอกลักษณ์ ปลาพันธุ์นี้มักมีสีแดงหรือส้มที่ครีบและท้อง ทำให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา

สายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดของปลาคาร์ป โดยมีประวัติยาวนานและเป็นที่นิยมในแวดวงผู้เลี้ยงปลาคาร์ปทั่วโลก การเลี้ยงดูปลาคาร์ปอาซากิต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำและอาหาร เพื่อให้สีสันของปลาสวยงามและโดดเด่นอยู่เสมอ


สายพันธุ์โกชิกิ เป็นปลาคาร์ปที่มีความสวยงามโดดเด่นด้วยสีสันที่หลากหลาย แต่จะมีการแบ่งสีหลักออกเป็น 5 สี ประกอบไปด้วยสีขาว, สีแดง, สีดำ, สีน้ำเงินอ่อน, และสีเทา ลวดลายของปลาสายพันธุ์นี้จะมีความซับซ้อนและสวยงาม จึงทำให้ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาคาร์ป

ปลาคาร์ปโกชิกิมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการผสมข้ามสายพันธุ์และลักษณะเฉพาะตัวของปลาแต่ละตัว ปลาสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาในยุคโทคุงาวะในประเทศญี่ปุ่นและถูกพัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ จนได้ปลาคุณภาพสูงอย่างที่เห็นในปัจจุบัน





ปลาคาร์ปสายพันธุ์ Koromo Showa หรือที่เรียกกันว่า Showa Koromo เป็นสายพันธุ์ปลาคาร์ปที่มีความพิเศษและสวยงาม โดยมีการผสมผสานของลวดลายที่โดดเด่นดังนี้:

  1. ลวดลายแบบ Koromo: ลวดลายนี้จะมีสีพื้นเป็นสีขาวและมีจุดหรือแถบสีน้ำเงินหรือสีดำที่ขอบของเกล็ด มักจะปรากฏในบริเวณหลังและข้างลำตัว ซึ่งทำให้ปลาดูมีลักษณะเหมือนเสื้อคลุม
  2. ลวดลายแบบ Showa: ปลาสายพันธุ์นี้จะมีลวดลายสีดำ (Sumi) ที่กระจายไปทั่วตัว รวมถึงมีสีแดง (Hi) และสีขาว (Shiroji) ที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างลวดลาย

การผสมผสานระหว่าง Koromo และ Showa ทำให้ปลาคาร์ปสายพันธุ์นี้มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ยาก มักจะได้รับความนิยมในหมู่นักเลี้ยงปลาคาร์ปที่ชื่นชอบปลาสวยงามและมีลวดลายที่ไม่ซ้ำใคร

การดูแลปลาคาร์ปสายพันธุ์นี้ต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำและอาหารที่เหมาะสม เพื่อให้ลวดลายและสีสันของปลายังคงสวยงามและสดใสอยู่เสมอ





ปลาคาร์ปสายพันธุ์ Hi Utsuri เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ปลาคาร์ปที่มีความสวยงามและโดดเด่นในด้านสีสัน โดย Hi Utsuri เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Utsurimono ซึ่งมีลักษณะเฉพาะดังนี้:

  1. สีพื้นหลัง (Sumi): สีพื้นหลังของ Hi Utsuri จะเป็นสีดำสนิท กระจายไปทั่วลำตัวของปลา
  2. ลวดลายสีแดง (Hi): สีแดงจะปรากฏเป็นลวดลายที่กระจายอยู่บนพื้นสีดำ โดยสีแดงจะมีความเข้มและสว่าง ซึ่งทำให้ปลามีความงดงามและมีความโดดเด่นมาก

Hi Utsuri มีความพิเศษในเรื่องการตัดกันของสีดำและสีแดงที่คมชัด ทำให้ลวดลายของปลามีความชัดเจนและสวยงาม การดูแลปลาคาร์ปสายพันธุ์นี้เช่นเดียวกับปลาคาร์ปชนิดอื่นๆ คือต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำ อาหาร และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อให้ปลามีสุขภาพดีและสีสันที่สดใส

ปลาคาร์ปสายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเลี้ยงปลาคาร์ปที่ต้องการเพิ่มสีสันและความโดดเด่นให้กับบ่อปลาของตนเอง


ปลาคาร์ปสายพันธุ์ Shiro Utsuri เป็นหนึ่งในปลาคาร์ปกลุ่ม Utsurimono ที่มีลักษณะเฉพาะและสวยงาม โดย Shiro Utsuri มีลักษณะเด่นดังนี้:

  1. สีพื้นหลัง (Sumi): สีพื้นหลังของ Shiro Utsuri จะเป็นสีดำที่กระจายทั่วตัวปลา
  2. ลวดลายสีขาว (Shiro): สีขาวจะปรากฏเป็นลวดลายที่ตัดกับพื้นสีดำ ทำให้ปลามีความโดดเด่นและสวยงาม สีขาวที่สดใสนี้จะทำให้ลวดลายของปลาดูชัดเจนและสะอาดตา

Shiro Utsuri เป็นปลาคาร์ปที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเลี้ยงปลาคาร์ป เพราะความตัดกันของสีดำและสีขาวที่คมชัด ทำให้ปลามีความสวยงามและน่าสนใจ การดูแลปลาคาร์ปสายพันธุ์นี้ต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำที่ดี อาหารที่เหมาะสม และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อให้ปลามีสุขภาพดีและสีสันที่สดใส

นอกจากนี้ การเลือกปลาคาร์ป Shiro Utsuri ควรคำนึงถึงลวดลายที่กระจายอย่างสมดุลและความคมชัดของสี เพื่อให้ได้ปลาที่มีความสวยงามมากที่สุด








ปลาคาร์ปสายพันธุ์ Tancho Sanke เป็นปลาคาร์ปที่มีลักษณะเฉพาะและสวยงาม โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

  1. ลักษณะเด่นของ Tancho: มีจุดสีแดง (Hi) กลมที่บริเวณหัว ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำให้ปลาสายพันธุ์นี้มีความพิเศษ
  2. ลวดลายของ Sanke: มีลายสีดำ (Sumi) และสีขาว (Shiroji) กระจายทั่วลำตัว โดยไม่มีสีแดงในส่วนอื่นของลำตัว นอกจากบริเวณหัว

Tancho Sanke เป็นที่นิยมในหมู่นักเลี้ยงปลาคาร์ปเนื่องจากความงดงามและลักษณะเฉพาะที่คล้ายกับธงชาติญี่ปุ่น


















Hikari Moyomono (Seperate from Hikari Utsurimono and Hikari Mujimono)

Sakura Ogon เป็นปลาคาร์ปที่มีลักษณะเด่นดังต่อไปนี้:

  1. สีสันที่เป็นเอกลักษณ์: ลักษณะเด่นที่สุดของ Sakura Ogon คือสีชมพูหรือสีแดงอ่อนที่ปรากฏบนตัวปลา ซึ่งคล้ายกับสีของดอกซากุระที่เบ่งบาน จึงเป็นที่มาของชื่อ “Sakura” ในภาษาญี่ปุ่น.
  2. พื้นผิวเงางาม: Sakura Ogon เป็นส่วนหนึ่งของปลาคาร์ปประเภท Hikari Muji ซึ่งหมายถึงปลาที่มีสีเดียวทั้งตัว แต่มีพื้นผิวที่เงางาม เป็นมันเงา ทำให้ปลาดูโดดเด่นเมื่อแสงตกกระทบ.
  3. ความสมดุลของสี: สีชมพูหรือแดงของ Sakura Ogon จะต้องกระจายอย่างสมดุลทั่วตัวปลา ทำให้ปลาดูสวยงามและสง่างาม ซึ่งเป็นลักษณะที่ผู้เลี้ยงปลาคราฟมักมองหา.
  4. ความละเอียดอ่อนของสี: สีชมพูหรือแดงที่ปรากฏใน Sakura Ogon มีความละเอียดอ่อนและมักไม่จัดจ้านจนเกินไป ทำให้ปลามีความสวยงามที่ดูนุ่มนวล และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เลี้ยงปลาคาร์ปที่ชื่นชอบความสวยงามที่ละเอียดอ่อน.


สีและลวดลาย: Hariwake เป็นปลาคาร์ปที่มีสีพื้นฐานเป็นสีขาวเงิน (Platinum White) และมีลวดลายสีเหลืองหรือสีทอง (Yellow/Gold) บนลำตัว สีเหลืองหรือทองนี้จะปรากฏเป็นแพทช์หรือจุดขนาดใหญ่ที่กระจายไปทั่วตัวปลา.
ประเภท: Hariwake จัดอยู่ในประเภท Hikarimoyo (光り模様) ซึ่งหมายถึงปลาปลาคาร์ปที่มีพื้นผิวเงางามและมีลวดลายสีสันสดใส.
ลักษณะเด่น: สิ่งที่โดดเด่นของ Hariwake คือความเงางามของสีขาวที่ตัดกับสีเหลืองหรือทอง ทำให้ปลาดูสดใสและมีความสวยงามที่ชัดเจน.








อย่างที่ทราบว่าปลาคาร์ปมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ ซึ่งจากปลาคาร์ปที่ koikoito.com กล่าวมานั้น เป็นเพียงสายพันธุ์ส่วนหนึ่งของปลาคาร์ปที่ได้รับความนิยม ทั้งการเลี้ยงเพื่อความสวยงามไปจนถึงการส่งประกวด ซึ่งท่านใดสนใจอยากได้ปลาคาร์ปสวย ๆ สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและเป็นเจ้าของได้ที่ Koikoito – Japanese Carp in Thailand ได้เลย

15 อุปกรณ์เลี้ยงปลาคาร์ป ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลา มีอะไรบ้าง?

สำหรับการเลี้ยงปลาคาร์ป จะมีสิ่งที่จำเป็นหลัก ๆ อยู่ 4 อย่าง คือ บ่อเลี้ยง, ระบบกรอง, ออกซิเจน และอาหาร แต่นั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ อีกหลายอย่างที่จำเป็นในการเลี้ยงปลาคาร์ป จะเลี้ยงทั้งทีต้องมีติดไว้ มันจำเป็นจริง ๆ นะครับเวลาต้องใช้ บทความนี้เราจะแนะนำอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเลี้ยง และดูแลปลาคาร์ปมีอะไรบ้าง มาดูเลย!

ยาสลบ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการเลี้ยงปลาคาร์ป โดยจะใช้ในเวลาที่ต้องการจะจับปลา เช่น ต้องการที่จะเคลื่อนย้ายปลา, ต้องการทายาเพื่อรักษาแผลปลา, การตกแต่งศัลยกรรมปลา, การจับปลาเพื่อนำมาถ่ายรูป เป็นต้น ซึ่งยาสลบเองก็มีหลายสูตร ประสิทธิภาพของยาก็แตกต่างกันออกไป ต้องการให้ปลาสลบนานแค่ไหน ใช้เพื่อจุดประสงค์ใดควรเลือกสูตรให้เหมาะสมตามขนาดของปลาด้วย

กระชอน อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดในการให้จับปลาคาร์ป สำหรับกระชอนที่ใช้จับปลาคาร์ป ต้องเป็นกระชอนที่มีลักษณะพิเศษ คือ ตาข่ายต้องนุ่ม เพื่อที่จะไม่ระคายเคืองกับผิวปลาเพราะอาจทำให้ปลาเป็นแผล หรือเกล็ดหลุดได้ รวมทั้งความแข็งแรงของเฟลม ด้ามจับต้องถนัดมือ มีกันลื่น และที่สำคัญต้องเลือกความยาวของกระชอนให้เหมาะสมกับขนาดตัวปลา และพื้นที่ด้วย หรือจะแบบปรับขนาดความยาวของด้ามจับได้

สำหรับคนที่เลี้ยงปลาสวยงาม สายประกวด จะไม่มีคงไม่ได้กับ “กะละมัง” (สีฟ้าหรือน้ำเงิน) เพราะสีนี้เมื่อในมาใสปลาคาร์ป จะเห็นความงามของปลาคาร์ปได้ชัดเจน ทั้งสี เกล็ด รูปร่าง ลดลาย ของปลาจะตัดกับสีของกะละมัง ทำให้ปลาโดดเด่นขึ้นมาอีก หากต้องการถ่ายภาพปลาคาร์ปสวย ๆ หรืออยากชมความงามของปลาแบบชัดเจนก็จัดไป สำหรับเลี้ยงปกติก็ควรมีครับใช้ตักปลามาใส่เช็คสุขภาพ ดูแผล ทำแผล

หากได้ปลามาใหม่สิ่งที่ต้องทำก็คือ การกักโรคก่อน ในกรณีที่ปลาที่ได้มาใหม่นั้นมีโรคมาด้วย อาจทำให้ปลาตัวอื่น ๆ ในบ่อเลี้ยงติดโรคไปด้วย และเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และปรสิตต่างๆ ดังนั้นทุกครั้งที่จะนำปลาที่ได้มาใหม่ลงบ่อ ควรที่จะให้ยากักโรคก่อน ซึ่งยากักโรคและรักษาโรค ซึ่งยากักโรคก็มีหลายสูตร เช่น ยาที่ใช้กำจัด แบคทีเรีย Formalin (ฟอร์มาลิน), Glutaraldehyde (กลูตาราลดีไฮด์) ยาที่ใช้ป้องกัน รักษา และฆ่าโรคจากเชื้อรา Malachite Green (มาลาไคท์กรีน) ยาที่ใช้สำหรับกำจัดปรสิต Dimilin (ดีมิลิน), Dipteret (ดิพเทอร์แร็กซ์) เป็นต้น หรือจะใช้ชุดยากักโรค ที่มีขายพร้อมใช้งานก็ได้เช่นกัน

สำหรับคนที่เลี้ยงปลาคาร์ปอย่างจริงจัง คงทราบดีว่าเครื่องออกซิเจนกับบ่อปลาคาร์ปสำคัญแค่ไหน หากออกซิเจนในบ่อไม่พออาจทำให้ปลาตายได้ทั้งบ่อ และยิ่งในประเทศไทยเกิดเหตุไฟฟ้าดับอยู่ตลอด ควรจะมีสำรองไว้ใช้อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นเครื่องผลิตออกซิเจนแบบมีแบตสำรองในตัว ควรที่จะมีติดบ่อเลี้ยงไว้

หากท่านต้องการเคลื่อนย้ายปลาจากบ่อไปสู่อ่างพักปลาอย่างมืออาชีพโดยที่ปลาที่ไม่ก่ออันตรายกับปลา กระชอนแบบถุงตอบโจทย์การเคลื่อนย้ายอย่างแน่นอน ตาข่ายของกระชอนมีความยาว และความนุ่ม เหนียว ทำให้ไม่เสียดสีผิวปลาเวลาเคลื่อนย้าย ปลายกระชอนเป็นตาข่ายปลายเปิด ใช้สำหรับปล่อยปลาออกสะดวกมากยิ่งขึ้น

เกลือ เป็นยาชั้นดีที่ขาดไม่ได้สำหรับคนเลี้ยงปลาคาร์ป ใช้ในการรักษาและควบคุมโรคที่เกิดกับปลา เช่น รักษาและป้องกันโรคจากแบคทีเรีย รักษาอาการตัวเปื่อย ครีบเปื่อย ตาโปน ซึม เบื่ออาหาร รวมทั้งใช้กับปลาใหม่ที่จะเอามาลงบ่อ ในการกักกันโรคด้วย ความเข้มข้มของความเค็มจะช่วยรักษาปลาได้เป็นอย่างดี แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม

เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ หมดความกังวลกับการให้อาหารปลาคาร์ป เมื่อไม่อยู่บ้าน หรือต้องไปต่างจังหวัดหลาย ๆ วัน นอกจากนั้นยังเป็นผลดีกับปลาที่ได้อาหารเป็นเวลา ในปริมาณที่เท่า ๆ กันในแต่ละมื้อ ทำให้ปลามีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์เนื่องจากกินอาหารเป็นเวลา ไม่ขาดสารอาหาร ช่วยให้การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างดีอีกด้วย

แน่นอนว่าออกซิเจน สำคัญมากในการเลี้ยงปลาคาร์ป แล้วถังออกซิเจนจำเป็นอย่างไรในเมื่อที่บ่อเลี้ยงมีเครื่องผลิตออกซิเจน ทำไมต้องมีถังออกซิเจนด้วย? คำตอบก็คือ มีความจำเป็นใช้ในการแพ็คปลาและเติมออกซิเจนใส่ถุงนั้นเพื่อนำปลาไปรักษา นำไปประกวด ดังนั้นหากใครที่จะเคลื่อนย้ายปลาคาร์ปจึงจำเป็นต้องใช้ถังออกซิเจนด้วย

สำหรับอุปกรณ์ในการแพ็คปลาคาร์ปในการเคลื่อนย้าย มีด้วยกันอยู่หลายอย่าง เช่น ถุงพลาสติก, ยางวงมัดถุงขนาดใหญ่, กล่องลังหรือกล่องโฟม และอื่น ๆ รวมไปถึงถังออกซิเจนด้วย

สำหรับน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยงปลาคาร์ป ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ในน้ำที่เหมาะสมคือ ในช่วง 7.2 – 8.5 นอกจากนั้นยังมีค่าอื่นๆ อย่าง เกลือ รวมทั้งอุณหภูมิของน้ำในบ่อเลี้ยง ซึ่งค่าต่างๆ ที่ว่ามาสามารถใช้ ปากกาวัดค่าน้ำ pH, Salt, อุณหภูมิ ได้จึงควรมีไว้ได้ใช้งานตลอดอย่างแน่นอน

สำหรับค่าแอมโมเนีย, ไนไตรท์, ไนเตรท ของน้ำในบ่อเลี้ยงถือเป็นสิ่งสำคัญในความเป็นอยู่ และการเจริญเติบโตของปลาคาร์ปเป็นอย่างมาก โดยค่าแอมโมเนีย ค่าไนไตรท์ ไนเตรท ที่เป็นพิษต่อปลาในน้ำ ควรไม่เกิน 0.02 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยสามารถใช้อุปกรณ์ในการวัด หรือชุดทดสอบค่าน้ำได้ ซึ่งเครื่องวัดอาจจะมีราคาที่สูงหน่อยแต่ได้ค่าที่แม่นยำ ส่วนชุดทดสอบค่าน้ำจะเป็นแถบสี บอกค่าปกติ/ไม่ปกติ

แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดและขาดไม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งอาหารปลาคาร์ปเองก็มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ หลายสูตร เช่น สูตรเร่งสี เร่งโต สูตรวีทเจิม เสริมสร้างสุขภาพและรูปร่างให้ดูสวยงาม อีกทั้งมีอาหารแบรนด์ไทย และอาหารปลาคาร์ปนำเข้าจากญี่ปุ่น 100% ต้องการแบบไหนเลือกได้ตามความต้องการได้เลย

นอกจากสีสันของปลาที่คนเลี้ยงต้องการแล้ว ขนาดปลาก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีแผ่นวัดไซส์ปลา เพื่อจะได้รู้การเจริญเติบโตของปลาคาร์ปว่ามีพัฒนาการอย่างไรบ้าง ซึ่งที่วัดไซส์ก็มีให้เลือกหลายแบบเช่นกัน ทั้งแบบเป็นถาดพลาสติก เป็นอ่างวัดขนาด เป็นสติ๊กเกอร์ หรือเป็นแผ่นวัดไซส์ ก็ได้แล้วแต่สะดวก

การใส่จุลินทรีย์ในบ่อเลี้ยงจะช่วยบำบัดน้ำให้ใสขึ้น ลดการสะสมของเสียในบ่อกรอง ช่วยกรองไม่ตันบ่อย ลดการเกิดตะกอนฝุ่นฟุ้งในบ่อปลา รวมทั้งลดกลิ่นเหม็นสะสมในบ่อเลี้ยง ทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้น และสุขภาพของปลาดี สดชื่น ร่าเริง กินเก่ง และนิยมใช้หลังจากที่มีการล้างกรอง เพื่อตามปริมาณจุลินทรีย์ที่หายไปกับการล้างให้กลับสู่สภาวะเดิมได้ไวขึ้น


อุปกรณ์เลี้ยงปลาคาร์ป ที่กล่าวมานั้นล่วงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลาคาร์ปเป็นอย่างมาก ควรที่จะมีติดบ่อเลี้ยงไว้ ถึงแม้บางอย่างหลายคนอาจจะมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้ เช่น ยารักษาโรค กักโรค แต่หากเมื่อเวลาปลาเกิดป่วยกะทันหัน จะหายามาใช้ก็อาจจะไม่ทันเวลา และอาจจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งบ่อเลี้ยงได้ ดังนั้นแล้วมีติดไว้ไม่เสียหายแน่นอน

ปลาคาร์ฟ หรือ ปลาคาร์ป เขียนยังไง ให้ถูกต้อง ทั้งภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น

ปลาคาร์ฟ ปลาคราฟ ปลาคาร์พ เขียนอย่างไรกันแน่ ? หากพูดถึงคำนี้แล้วหลายคนอาจจะยังสงสัยว่าที่ถูกต้องควรจะต้องสะกดแบบไหนจึงจะถูกต้อง เมื่อค้นหาข้อมูลตามเว็บไซต์คำที่ค้นเจอส่วนมากจะเป็นคำว่า “ปลาคาร์ฟ”

Carp เป็นคำภาษาอังกฤษที่สามารถสะกดทับศัพท์เป็นภาษาไทยได้ว่า “คาร์ป” หรือ “คาร์พ” ซึ่งดูแล้วจะไม่สามารถสะกดเป็น “คาร์ฟ” หรือ “คราฟ” ได้เลย ภาษาไทยที่ถูกต้องจึงเป็นคำว่า “ปลาคาร์ป” สำหรับภาษาญี่ปุ่น Carp ถูกเรียกว่า Koi (โค่ย) 鯉 หรือ Nishikigoi